1.คราบจากเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีสี เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง
2.คราบบุหรี่
3.ฟันสึก เคลือบฟันบางลง
4.ฟันที่ได้รับอุบัติเหตุ ถูกกระแทกทำให้ฟันตาย เปลี่ยนเป็นสีเทาดำ
5.ฟันที่มีสีผิดปกติจากการได้รับยาบางอย่าง เช่น ยา tetracycline
6.ฟันตกกระ ฟันที่ได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป
7.ฟันที่มีรอยอุดขนาดใหญ่
วิธีการรักษา
ต้องพิจารณาถึงสาเหตุ สภาพที่เป็นอยู่ และความคาดหวังที่ต้องการ
โดยทั่วไปทำได้ 4 วิธี
1.ขูดหินปูน และขัดทำความสะอาดฟัน เหมาะสำหรับคนที่มีคราบดำจากบุหรี่ ชา กาแฟ ต้องการขัดคราบดำออก แต่พอใจกับสีฟันธรรมชาติของตัวเองอยู่แล้ว
2.ฟอกสีฟันแบบทันตแพทย์ทำให้ในคลินิก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนสีฟันธรรมชาติที่เหลืองให้ขาวขึ้น
3.ฟอกสีฟันแบบทันตแพทย์จ่ายยากลับไปให้ทำเองที่บ้าน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนสีฟันธรรมชาติที่เหลืองให้ขาวขึ้น
4.วีเนียร์ หรือเคลือบฟันเทียม เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสีฟันไม่สม่ำเสมอ หรือมีรอยอุดใหญ่ หรือมีปัญหาช่องฟันห่างร่วมด้วย หรือมีความต้องการที่จะแก้ไขรูปร่าง หรือตำแหน่งการเรียงตัวของฟันเล็กๆน้อยๆ
Veneer วีเนียร์ หรือการเคลือบผิวฟัน คือการใช้วัสดุสีเหมือนฟันปิดบริเวณผิวหน้าของฟัน
มี 2 แบบ คือ
1. Composite Veneer ทำจากวัสดุที่ใช้อุดฟัน โดยทำขึ้นโดยตรงภายในช่องปาก ราคาถูกกว่าพอร์สเลนวีเนียร์
2. Porcelain Veneer ทำจากพอร์สเลน โดยต้องมีการพิมพ์ฟัน แล้วส่งไปทำในห้องแลป แล้วนำกลับมายึดติดในช่องปาก มีความคงทนและสวยงามมากกว่าคอมโพสิทวีเนียร์
ข้อดี คือ สวยงาม เลือกสีความขาวได้ตามต้องการ และแก้ไขรูปร่างและตำแหน่งของฟันได้
ข้อเสีย คือมีการกรอผิวหน้าฟัน ทำให้สูญเสียชั้นเคลือบฟัน , ต้องใช้งานด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้ฟันหน้ากัดของแข็ง , ราคาสูง
การฟอกสีฟัน คือการทำให้ฟันขาวขึ้นโดยใช้น้ำยาฟอกสีฟัน Carbamide Peroxide และ Hydrogen Peroxide
มี 2 วิธี คือ
1. ฟอกสีฟันแบบทันตแพทย์ทำให้ในคลินิก (In-Office Whitening)
2. ฟอกสีฟันแบบทันตแพทย์จ่ายยากลับไปให้ทำเองที่บ้าน (Home Whitening)
การฟอกสีฟันขาว แบบทันตแพทย์ทำให้ในคลินิก (In-Office Whitening)
จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง และใช้แสงกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาให้รวดเร็วขึ้น ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชม. ก็จะได้สีฟันที่ขาวขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ของการรักษาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย ไม่มีเวลาทำเองที่บ้าน หรือต้องการให้ฟันขาวอย่างรวดเร็ว
ขั้นตอน
1. ตรวจสุขภาพฟัน ในกรณีที่มีหินปูนมาก ควรขูดหินปูนและขัดฟันก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ถ้าใครไม่มีหินปูนมาก ไม่มีคราบชากาแฟมาก ก็สามารถเริ่มทำได้เลย
2. เทียบสีฟันก่อนทำ เพื่อไว้เปรียบเทียบกับตอนหลังทำ จะได้รู้ว่าสีฟันดั้งเดิมอยู่ระดับใด
3. ทำการป้องกันแก้มและเหงือก แล้วเริ่มกระบวนการฟอกสีฟัน เป็นเวลาประมาณ 45-60 นาที โดยทาน้ำยาฟอกสีฟันขาวลงบนตัวฟัน แล้วกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาอย่างสมบูรณ์โดยการใช้แสง
4. เทียบสีฟันหลังทำ เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างก่อนและหลังทำการฟอกสี
ข้อจำกัดของวิธีนี้คือ
การฟอกสีฟันขาวแบบทำเองที่บ้าน (Home Whitening)
ทันตแพทย์จะพิมพ์ปากเพื่อทำอุปกรณ์ถาดฟอกสีฟัน และสั่งจ่ายน้ำยาฟอกสีฟันให้นำกลับไปใส่ที่บ้าน โดยจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 2 สัปดาห์
ขั้นตอน
1. ตรวจสุขภาพฟัน แล้วคุณหมอจะพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีเฉพาะบุคคล และแนะนำวิธีการใช้งานให้
** ก่อนเริ่มฟอกสีฟัน ควรขูดหินปูนและขัดฟันก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ถ้าใครไม่มีหินปูนมาก ไม่มีคราบชากาแฟมาก ก็สามารถเริ่มทำได้เลย
2. ก่อนเริ่มต้นฟอกฟัน ควรแปรงฟันให้สะอาด และถาดฟอกสีฟันควรแห้งสนิท
3. ใส่น้ำยาลงไปที่ถาดฟอกสีด้านที่จะสัมผัสกับผิวหน้าฟัน ใส่ถาดฟอกสีเข้าไปในปาก แล้วกดเบาๆให้น้ำยากระจายทั่วผิวหน้าฟัน
4. สวมถาดฟอกสีฟันบนและล่าง สวมทิ้งไว้วันละ 1-2 ชั่วโมง วันละ 1 ครั้ง แต่หากมีอาการเสียวฟัน แนะนำให้ทำวันเว้นวัน
5. หลังทำเสร็จ เอาถาดฟอกสีออกจากปาก บ้วนน้ำมากๆหรือแปรงฟัน แล้วล้างถาดฟอกสีด้วยน้ำสะอาด ใช้แปรงสีฟันปัดคราบน้ำยาที่หลงเหลืออยู่ออก ผึ่งให้แห้ง แล้วเก็บใส่กล่องไว้ในที่แห้ง เพื่อใช้ใหม่ในครั้งต่อไป
ข้อดี ฟันจะขาวได้ยาวนานกว่า และเสียวฟันน้อยกว่าแบบทำในคลินิก
การฟอกสีฟันปลอดภัยหรือไม่ มีผลข้างเคียงอะไรไหม ?
• การฟอกสีฟัน ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อฟัน ไม่ทำลายเคลือบฟันและเนื้อฟัน แต่ในบางคนอาจจะมีอาการเสียวฟันขณะทำ หรือหลังทำได้ โดยอาการเสียวฟันนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 วันหลังจากหยุดฟอกสี
• หากมีอาการเสียวฟัน แนะนำให้ใช้ยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน บีบใส่ในถาดฟอกสี แล้วใส่ไว้นานอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
• การลดจำนวนชั่วโมงฟอกสีลง จะช่วยลดอาการเสียวฟันได้
• ในบางเคสอาจมีอาการระคายเคืองที่เหงือก แก้ไขโดยใช้น้ำยาฟอกสีปริมาณน้อยลงและลดจำนวนชั่วโมงในการฟอกสีลงเช่นกัน
ผลการฟอกสี จะอยู่ได้นานแค่ไหน ?
• ฟันจะคงความขาวได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลทำความสะอาด และอาหารที่รับประทาน
• เพื่อผลลัพธ์ที่ดีแนะนำให้เลี่ยงการสูบบุหรี่ และการดื่มชากาแฟ
• ผลลัพธ์ของการฟอกสีฟัน ขึ้นอยู่กับสีฟันที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิม และการตอบสนองต่อการรักษาที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ทำอย่างไร ฟันจึงจะคงความขาวอยู่ได้นาน ?
• ทุกเช้าและก่อนนอน แปรงทำความสะอาดฟันและแปรงลิ้นด้วย เพื่อขจัดคราบพลัค และคราบสีจากอาหารต่างๆ แปรงฟันให้สะอาดทั่วถึงทุกซอกมุม
• ดื่มน้ำเปล่า และจิบน้ำบ่อยๆเพื่อให้สภาพกรดและเบสในช่องปากเจือจาง / หลังจากทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสีทุกครั้ง ให้ดื่มน้ำเปล่าตาม หรือบ้วนปาก เพื่อช่วยลดคราบสีที่จะสะสมบนผิวฟัน
• ใช้การฟอกสีฟันด้วยชุดฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน เพื่อคงสภาพความขาวให้คงทนยาวนาน โดยอาจจะทำซ้ำ เดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อฟันจะได้ขาวไปตลอด
เปิดให้บริการทุกวัน 9.00-20.00 น.
ปรึกษาทางออนไลน์ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย
Copyright © 2009 AG Dental Plus Clinic – All Rights Reserved.
ข้อจำกัดความรับผิด: ผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล