ฟันปลอมชนิดต่างๆ

ฟันปลอมชนิดต่างๆBanner-1

เมื่อไหร่ที่ต้องเริ่มใส่ฟันปลอม

เมื่อไหร่ที่ต้องเริ่มใส่ฟันปลอม เมื่อไหร่ที่ต้องเริ่มใส่ฟันปลอม2

ฟันปลอม คือ  ฟันที่ทำขึ้นเพื่อใช้ทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป โดยมีหน้าที่ช่วยในการบดเคี้ยว ป้องกันการเกิดปัญหาการล้มเอียงของฟันข้างเคียง และการยื่นยาวของฟันคู่สบ ช่วยในเรื่องความสวยงาม และการออกเสียง

เมื่อไหร่ที่ต้องเริ่มใส่ฟันปลอม

โดยปกติภายหลังถอนฟันไป แผลจะหายภายใน 2 สัปดาห์ แต่กระดูกเบ้าฟันที่กลวงอยู่ จะมีการปรับเปลี่ยนรูปร่างกระดูกตามธรรมชาติ  ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4-6สัปดาห์  จึงสมบูรณ์ ดังนั้นระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการใส่ฟันปลอมคือ 1-2 เดือนภายหลังจากถอนฟัน หากทำฟันปลอมเร็วเกินไป อาจทำให้ฟันปลอมหลวมในภายหลังได้

แต่ในบางกรณีจำเป็นต้องทำทันทีหลังถอนฟัน คือ กรณีที่ถอนฟันหน้าไป ผู้ป่วยจะเสียบุคคลิกภาพ กรณีนี้จะทำฟันปลอมชั่วคราวให้ผู้ป่วยใส่ทันทีที่ถอนฟัน และจะต้องทำฟันปลอมถาวรอีกชุด ภายหลัง 2 เดือนนับจากวันที่ถอนฟันไป

ข้อเสียของการไม่ใส่ฟันปลอม

1.ถ้าเป็นฟันหน้า จะส่งผลต่อบุคลลิกภาพ และการออกเสียง

2.ถ้าเป็นฟันหลัง จะทำให้ไม่มีฟันบดเคี้ยวอาหาร ส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารและร่างการโดยรวม

3.ทำให้เกิดฟันล้ม ฟันเอียง ส่งผลต่อความสวยงาม การบดเคี้ยว และเป็นอุปสรรคต่อการใส่ฟันทดแทน

4.อาจทำให้เกิดการเคี้ยวข้าวข้างเดียว ซึ่งจะทำให้มีปัญหาข้อต่อขากรรไกรตามมาในอนาคต

ฟันปลอมมีกี่ชนิด

ฟันปลอมมีกี่ชนิด

ฟันปลอมมี 2 ชนิด คือ ฟันปลอมแบบถอดได้  และฟันปลอมแบบติดแน่น

ฟันปลอมแบบถอดได้

ผู้ป่วยสามารถใส่หรือถอดฟันปลอมชนิดนี้ได้ด้วยตนเอง  มีทั้งฟันปลอมบางส่วนถอดได้ และ ฟันปลอมทั้งปาก  ขึ้นกับจำนวนฟันที่ถอนออกไป  เหมาะกับการใส่ฟันหลาย ๆ  ซี่ หรือใส่ทันทีที่ถอนฟันด้านหน้า    อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยของฟันปลอมถอดได้อยู่ที่  5-10  ปี แต่ผู้ป่วยบางรายอาจใส่ได้นานมากกว่าสิบปี หากดูแลฟันปลอมได้ดีและฟันปลอมไม่สึกไปก่อน 

ฟันปลอมแบบถอดได้ แบ่งตามชนิดของฐานฟันปลอมได้เป็น 2 แบบ คือ

1.ฟันปลอมถอดได้โครงโลหะ   ฟันปลอมชนิดนี้จะมีตัวฐานเป็นโลหะ และมีฟันเป็นพลาสติกพิเศษที่มีสีและลักษณะใกล้เคียงกับฟันข้างเคียง มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าฐานอะคริลิก บางกว่า และแนบไปกับเพดานปากทำให้รู้สึกรำคาญน้อยกว่า แต่ราคาแพงกว่าโครงอะคริลิก  และถ้ามีการชำรุดแตกหัก จะซ่อมแซมได้ยากกว่า

2.ฟันปลอมถอดได้โครงอะคริลิกหรือพลาสติก  ฟันปลอมชนิดนี้จะมีทั้งฐานและฟันเป็นพลาสติก ฐานจะมีสีชมพูคล้ายเหงือก และฟันก็จะมีสีและลักษณะใกล้เคียงกับฟันข้างเคียง   อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าฟันปลอมชั่วคราวเนื่องจากไม่ทนทาน  มีฐานหนาและใหญ่กว่าแบบโครงโลหะ ใส่ไม่สบาย อาจมีกลิ่นและสีเปลี่ยนเมื่อใช้ไปนาน ๆ   แต่มีข้อดีคือราคาถูก หากเกิดการชำรุด แตกหัก หรือต้องการเติมซี่ฟัน (กรณีที่มีการถอนฟันเพิ่มเติม) ก็สามารถทำได้ง่ายกว่า

ฟันปลอมแบบถอดได้-แบ่งตามชนิดของฐานฟันปลอม

ฟันปลอมแบบติดแน่น

ฟันปลอมติดแน่น คือจะติดแน่นอยู่กับฟันธรรมชาติซี่นั้นหรือซี่ข้างเคียงเลย  ไม่ต้องถอดออก  มีรูปร่างและขนาดเหมือนฟันธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมถอดได้ จึงทำให้เรารู้สึกสบายกว่า ไม่มีส่วนของเหงือกปลอม หรือตะขอที่เกะกะ และการใช้งานเคี้ยวอาหารก็มีประสิทธิภาพมากกว่าฟันปลอมถอดได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีช่องว่างไร้ฟันที่กว้าง หรือถอนฟันไปหลายซี่จะไม่สามารถทำฟันปลอมติดแน่นได้ เนื่องจากฟันหลักยึดอาจไม่เพียงพอที่จะรองรับฟันปลอมที่เสริมขึ้นมาหลายซี่ 

ฟันปลอมติดแน่น แบ่งเป็น 3 แบบ

1.ครอบฟัน ใช้บูรณะฟันในกรณีที่มีการสูญเสียเนื้อฟันไปมากเนื่องมาจากรอยผุ หรือฟันแตกหัก

2.สะพานฟัน หากถอนฟันบางซี่ไปแล้วมีช่องว่างฟันเกิดขึ้น จะต้องกรอฟันที่อยู่หัวและท้ายของช่องว่างเพื่อเป็นหลักยึดสำหรับฟันที่จะทดแทนในช่องว่าง เรียกว่า การทำสะพานฟัน

3.รากฟันเทียมเป็นการใส่วัสดุที่เป็นโลหะทำเลียนแบบรากฟัน ฝังลงในขากรรไกรบริเวณที่ต้องการใส่ฟันปลอม  มีความคล้ายคลึงฟันธรรมชาติมากที่สุด ไม่สูญเสียเนื้อฟัน เนื่องจากไม่ต้องกรอเนื้อฟันข้างเคียง ผู้ป่วยจะรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า  เคี้ยวอาหารได้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงฟันธรรมชาติมากที่สุด

ข้อดี-ข้อเสีย ของฟันปลอมแบบถอดได้

ข้อดี-ข้อเสีย-ของฟันปลอมแบบถอดได้

ข้อดีของฟันปลอมถอดได้

  • ถอดทำความสะอาดได้ง่าย
  • ใส่ฟันได้หลายซี่หรือทั้งปาก
  • ราคาถูกกว่าฟันปลอมติดแน่น


ข้อเสียของฟันปลอมถอดได้

  • ใส่แล้วระยะแรกจะรำคาญฐานของฟันปลอม อาจทำให้พูดไม่ชัดในช่วงแรกๆ ต้องอาศัยการปรับตัว
  • มองเห็นตะขอ หรือมองออกได้ง่ายว่าใส่ฟันปลอม
  • แรงบดเคี้ยวน้อยกว่าฟันปลอมติดแน่น จึงเคี้ยวอาหารแข็งเหนียวได้ไม่ดีนัก
  • ห้ามใส่เวลานอน (ทั้งนอนกลางคืน และนอนตอนกลางวัน)
  • หากดูแลทำความสะอาดไม่ดี อาจทำให้ติดเชื้อราได้

การดูแลรักษาฟันปลอมแบบถอดได้

การดูแลรักษาฟันปลอมแบบถอดได้1

การทำความสะอาดฟันปลอม

1. ถอดออกทำความสะอาด ทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร และก่อนนอนของทุกวัน โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม แปรงฟันปลอมเบาๆกับน้ำสะอาด  หรือน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน หรือหากอยากใช้เม็ดฟู่ทำความสะอาดฟันปลอมเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็สามารถทำได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง

** ห้ามใช้แปรงสีฟันขนแข็ง   ห้ามใช้ยาสีฟัน  ทำความสะอาดฟันปลอม  เพราะจะทำให้ฟันปลอมสึกหรือเป็นรอยขูดขีดได้

2. ดูแลทำความสะอาดฟันธรรมชาติและเหงือกของเราให้ดี  โดยการแปรงฟันอย่างถูกวิธีและทั่วถึง  สำหรับเหงือก ให้ทำความสะอาดด้วยใช้ผ้าสะอาด ผ้าขนหนู หรือผ้าก๊อซ ชุบน้ำสะอาดเช็ดให้ทั่ว

3. หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เพราะอาจทำให้ฟันปลอมแตกชำรุดได้

4. หลีกเลี่ยงอาหารเหนียว เพราะจะทำให้ฟันปลอมหลุดระหว่างที่กำลังทานอยู่ได้

5. ระวังทำฟันปลอมตกแตก  ฟันปลอมส่วนที่เป็นอะคริลิกหรือพลาสติก หากตกพื้น อาจจะแตกได้ ขณะแปรงทำความสะอาดฟันปลอมอยู่ ควรมีอ่างล้างมือ หรือภาชนะรอง เพราะอาจทำหลุดมือตกแตกได้

6. ไม่ให้ใส่ฟันปลอมนอน (ทั้งนอนตอนกลางวัน และนอนตอนกลางคืน) ขณะนอนหลับ ให้ถอดฟันปลอมออก  เพื่อให้เหงือกที่ฟันปลอมกดทับอยู่ได้พักบ้าง จะเป็นการช่วยลดการเกิดเหงือกอักเสบด้วย  ส่วนฟันปลอม ให้ถอดทำความสะอาดแล้วแช่ไว้ในกล่องที่มีน้ำท่วมฟันปลอม (เปลี่ยนน้ำสะอาดทุกครั้งที่แช่ฟันปลอม)

7. หากจำเป็นต้องถอดฟันปลอมนอกบ้าน ให้เก็บไว้ในกล่อง  ห้ามห่อกระดาษทิชชู่ เพราะอาจทิ้งไปโดยไม่รู้ตัวได้

8. ห้ามปล่อยให้ฟันปลอมแห้งนานๆ ฟันปลอมต้องอยู่ปาก หรือในกล่องแช่น้ำ หากปล่อยฟันปลอมทิ้งไว้แห้งนานๆ ฟันปลอมจะเสียรูป บิดเบี้ยว ทำให้ใส่ได้ไม่พอดี และกดเจ็บเหงือกได้

ทำฟันกับ AG DENTAL PLUS

ตรวจสุขภาพฟัน

อุดฟัน

ขูดหินปูน รักษาโรคเหงือก โรคปริทันต์

ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ศัลยกรรมช่องปาก

ฟอกสีฟันขาว

รักษาฟันเด็ก

รักษารากฟัน

ฟันปลอมถอดได้/ฟันปลอมติดแน่น

รากฟันเทียม ครอบฟัน สะพานฟัน

ปวดขากรรไกร นอนกัดฟัน นอนกรน

บำบัดฉุกเฉิน ลดอาการปวด

โปรโมชั่น

เรื่องฟันน่ารู้ ความรู้เรื่องฟัน AG Dental Plus Clinic ทำฟัน จัดฟัน โดยทีมทันตแพทย์มหิดล

เปิดให้บริการทุกวัน 9.00-20.00 น.

ปรึกษาทางออนไลน์ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย

Copyright © 2009 AG Dental Plus Clinic – All Rights Reserved.

ข้อจำกัดความรับผิด: ผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล