วัยแรกเกิด – 6เดือน
1. ทำความสะอาดช่องปากวันละ 2 ครั้ง โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นที่เย็นลงแล้ว เช็ดเบาๆบริเวณสันเหงือก กระพุ้งแก้ม เพดานปากและลิ้น
2. ให้เด็กกินนมแม่อย่างเดียวดีที่สุด หากจำเป็นต้องกินนมผสมให้กินรสจืด เลือกนมที่ไม่มีน้ำตาลหรือน้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบ
3. ให้เด็กกินนมเป็นมื้อ และควรให้เลิกนมมื้อดึก เมื่อเด็กอายุ 6 เดือน
เด็กอายุ 6 เดือน – 1 ปี
1. เด็กวัยนี้จะเริ่มมีฟันขึ้น เมื่อฟันขึ้นให้แปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยแตะยาสีฟันบางๆที่ขนแปรง
2. แปรงฟันให้เด็กด้วยวิธีการถูไปมาตามแนวนอน แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดฟองยาสีฟันออก โดยไม่ต้องบ้วนน้ำตาม
3. เริ่มฝึกให้เด็กดื่มนมจากถ้วยหัดดื่ม หรือดูดจากหลอด
4. ไม่ควรให้เด็กดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน หรือน้ำผลไม้ โดยใช้ขวดนม
เด็กอายุ 1ปี – 1 ปีครึ่ง
1. แปรงฟันให้เด็กด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยแตะยาสีฟันบางๆที่ขนแปรง แปรงฟันให้เด็กแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดฟองยาสีฟันออก โดยไม่ต้องบ้วนน้ำตาม แปรงวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน
2. ให้เด็กเลิกดูดขวดนม แต่ให้ดื่มนมจากถ้วยหรือใช้หลอดดูดแทน
3. ดื่มนมรสจืดเท่านั้น หลีกเลี่ยงนมหวาน นมเปรี้ยว นมรสน้ำผึ้ง เพราะจะทำให้ฟันผุ
4. ไม่ควรใช้ปากเป่าอาหารป้อนให้เด็ก หรือใช้จาน ช้อนส้อม แก้วน้ำร่วมกับเด็ก
5. เลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ หลีกเลี่ยงขนมหวานที่มีลักษณะเหนียวติดฟัน
เด็กอายุ 1 ปีครึ่ง – 3ปี
1. เด็กวัยนี้จะเริ่มมีฟันกรามน้ำนมขึ้น และจะทยอยขึ้นจนครบ 20 ซี่
2. เลือกขนาดแปรงสีฟันให้เหมาะกับอายุของเด็ก ด้ามแปรงตรง จับถนัดมือ ขนแปรงหน้าตัดตรง ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป
3. ให้ผู้ปกครองแปรงฟันให้เด็กด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยแตะยาสีฟันบางๆที่ขนแปรง แปรงฟันให้เด็กแล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดฟองยาสีฟันออก โดยไม่ต้องบ้วนน้ำตาม แปรงวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน.
4. อาจเริ่มฝึกให้เด็กแปรงฟันเอง แต่ผู้ปกครองต้องช่วยแปรงซ้ำให้สะอาดทั่วทุกซี่ทุกด้าน
5. เมื่อฟันกรามเริ่มเบียดชิดกัน ผู้ปกครองควรใช้ไหมขัดฟันขัดทำความสะอาดบริเวณซอกฟันให้เด็ก อย่างน้อยวันละ1 ครั้งก่อนนอน
6. เลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ หลีกเลี่ยงขนมหวานที่มีลักษณะเหนียวติดฟัน
7. เด็กวัยนี้ควรเลิกดูดขวดนมได้แล้ว
เด็กอายุ 3 ปี – 6 ปี
1. ให้เด็กแปรงฟันให้เด็กด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยบีบยาสีฟันตามแนวนอนของขนแปรง แล้วผู้ปกครองต้องแปรงซ้ำให้สะอาด อย่าเพิ่งปล่อยให้เด็กแปรงเอง เมื่อแปรงเสร็จให้เด็กบ้วนฟองยาสีฟันออก โดยไม่ต้องบ้วนน้ำตาม แปรงวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน
2. เลือกขนาดแปรงสีฟันให้เหมาะกับอายุของเด็ก ด้ามแปรงตรง จับถนัดมือ ขนแปรงหน้าตัดตรง ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป
3. แปรงฟันครั้งละ 2 นาที บ้วนน้ำเพียงครั้งเดียวหลังแปรงฟัน และไม่รับประทานน้ำหรืออาหาร 2 ชั่วโมง
4. ผู้ปกครองใช้ไหมขัดฟันขัดทำความสะอาดบริเวณซอกฟันให้เด็ก อย่างน้อยวันละ1 ครั้งก่อนนอน
5. เลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ หลีกเลี่ยงขนมหวานที่มีลักษณะเหนียวติดฟัน หากเด็กอยากทานขนมหวาน ควรเลือกทานพร้อมอาหารมื้อหลัก แล้วแปรงฟันหลังทาน ไม่ควรทานจุบจิบไม่เป็นเวลา
6. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวาน หรือมีความเป็นกรด รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม ชาเขียว
7. เมื่อเด็กอายุ 6 ปี จะเริ่มมีฟันแท้ขึ้นมาในช่องปาก ได้แก่ ฟันหน้าล่าง และฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 เมื่อฟันกรามแท้ขึ้นเต็มซี่ ให้พาเด็กไปพบทันตแพทย์ เพื่อเคลือบหลุมร่องฟันป้องกันฟันผุ
8. เมื่อเด็กอายุ 6 ปี ให้แปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยบีบยาสีฟันตามแนวยาวของขนแปรง แล้วผู้ปกครองตรวจความสะอาดซ้ำให้ หากมีบริเวณที่ไม่สะอาด ให้ผู้ปกครองช่วยแปรงซ้ำให้
1. เด็กสามารถแปรงฟันเองได้แล้ว ผู้ปกครองคอยตรวจความสะอาด หาไม่สะอาดให้แปรงซ้ำ ใช้ไหมขัดฟันขัดทำความสะอาดบริเวณซอกฟันด้วย อย่างน้อยวันละ1 ครั้งก่อนนอน
2. ให้แปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยบีบยาสีฟันตามแนวยาวของขนแปรง
3. แปรงฟันครั้งละ 2 นาที บ้วนน้ำเพียงครั้งเดียวหลังแปรงฟัน และไม่รับประทานน้ำหรืออาหาร 2 ชั่วโมง
4. ให้พาเด็กไปพบทันตแพทย์ เพื่อเคลือบหลุมร่องฟัน ป้องกันฟันแท้ผุ
5. สำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุสูง ให้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่ผสมฟลูออไรด์ และไม่มีแอลกอฮอล์ โดยไม่ใช้เวลาเดียวกับตอนแปรงฟัน
6. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวาน หรือมีความเป็นกรด รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม ชาเขียว
7. พบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน
การตรวจฟันให้ลูก
ผู้ปกครองสามารถตรวจหาฟันผุให้ลูกได้ง่ายๆ โดยหลังแปรงฟัน ตรวจฟันลูกด้วยตาเปล่าในสถานที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ
ฟันดี มีลักษณะผิวฟันขาว เรียบมันเป็นเงา ไม่มีรู
ฟันผุในระยะเริ่มแรก มีลักษณะเป็นจุดหรือแถบสีขาวขุ่น
การรักษา แปรงฟันให้สะอาดด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ พบทันตแพทย์เพื่อเคลือบฟลูออไรด์ รวมทั้งปรับพฤติกรรมการรับประทานที่ไม่เหมาะสม
ฟันผุในระยะที่ 2 มีลักษณะเป็นรูผุชัดเจน
การรักษา พบทันตแพทย์เพื่ออุดฟัน
ฟันผุในระยะที่ 3 มีลักษณะลุกลามทะลุโพรงประสาทฟัน มีอาการ ปวดฟัน เหงือกบวมหรือเป็นหนอง
การรักษา พบทันตแพทย์เพื่อรักษารากฟัน หรือถอนฟัน
การป้องกันฟันผุในเด็ก
1.แปรงฟันให้ลูกด้วยยาสีฟันที่ส่วนผสมของฟลูออไรด์ ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นจนถึง อายุ 6 ปี
2.เลิกดูดขวดนมเมื่อเด็กอายุ 1 ปี โดยฝึกดื่มจากถ้วย หรือหลอดแทน
3.หลีกเลี่ยงขนมรสหวาน ขนมกรุบกรอบที่เหนียวติดฟัน
4.ดื่มนมรสจืด หลีกเลี่ยงนมรสหวาน นมรสน้ำผึ้ง นมเปรี้ยว น้ำหวาน น้ำอัดลม ชาเขียว
5.หมั่นตรวจฟันให้ลูกและ พาลูกมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันทุก 6 เดือน
เพื่อลูกรักฟันสวยแข็งแรง
– แปรงฟันให้ลูกตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น จนถึงอายุ 6 ปี อย่าปล่อยให้เด็กแปรงเอง
– ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ 1,000 ppm แปรงเสร็จแล้วใช้ผ้าเช็ดฟองยาสีฟันออก หรือให้เด็กบ้วนฟองทิ้ง
– แปรงฟันให้ลูกทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน
-ท่าแปรงฟันในเด็กที่ดีที่สุดคือ “ท่านอน” เพราะจะทำให้มองเห็นฟันทุกซี่ได้ชัดเจน ช่วยให้แปรงได้สะอาดทั่วถึงทุกซี่ ในกรณีที่เด็กไม่อยู่นิ่ง อาจใช้ขาโอบลำตัวเด็กไว้
การบีบยาสีฟัน
– แปรงให้ลูกด้วยวิธีการถูไปมาตามแนวนอนให้ทั่วทุกซี่ ทุกด้าน
เปิดให้บริการทุกวัน 9.00-20.00 น.
ปรึกษาทางออนไลน์ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย
Copyright © 2009 AG Dental Plus Clinic – All Rights Reserved.
ข้อจำกัดความรับผิด: ผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับการตอบสนองของแต่ละบุคคล